วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2557

การอบไม้ (Wood Drying)

การอบแห้ง (Kiln Dry)

 ไม้ทุกชนิดที่มีการนำมาใช้งานไม่ว่าจะด้วยรูปแบบไหนก็ตาม ควรผ่านกระบวนการอบแห้งซะก่อน เพื่อลดความชื้นที่มีอยู่ในเนื้อไม้ ที่ทำให้เกิดการหด หรือขยายตัวของเนื้อไม้ทำให้เกิดการโก่ง บิดตัว สร้างความเสียหายให้กับโครงสร้างไม้

โดยที่การอบแห้งนั้นมีอยู่ 2 แบบ
  1. แบบแอร์ดราย (Air Dry) 
  2. แบบอบความร้อนด้วยระบบสูญญากาศ

แบบ แอร์ดราย (Air Dry)
เรียกแบบภาษาชาวบ้านคือแบบผึ่งลม นั่นเอง เป็นการทำไม้ แห้งด้วยการตากลมโดยที่ตากแดด ปล่อยให้ความชื้นในเนื้อไม้ค่อยๆ ระเหยไปเอง  จนความชื้นในเนื้อไม้เหลือ 15-16% ซึ่งบ้านเรากำหนดความชื้นในไม้ไว้ที่ประมาณ 10-12% ถ้าใครคิดจะลองวิธีการนี้ ต้องใช้เวลาเป็นปีเลยทีเดียวเพื่อให้ไม้แห้ง แต่วิธีการนี้จะช่วยทำให้ไม้ไม่เกิดการบิดตัวเลยเพราะเป็นการค่อยๆปล่อยให้ไม้นั้นแหงเองตามธรรมชาติ ถ้าเกิดรอนานไม่ไหวก็สามารถใช้วิธีการอบได้ซึ่งจะใช้เวลา 1-2 วัน เท่านั้น แต่มีข้อเสียคือ การอบนั้นเหมือนเป็นการไปเร่งเอาน้ำออกมาจากเนื้อไม้ ทำให้ไม้เกิดการบิดตัว และอาจเสียรูปได้


แบบอบความร้อนด้วยระบบสูญญากาศ
การอบความร้อนวิธีการนี้เป็นวิธีอีกทางหนึ่ง เพื่อดึงความชื้นออกมาจากเนื้้อไม้ เพื่อให้ไม้ที่นำไปใช้ไม่เกิดการโก่งงอ บิดตัว เป็นการใช้ความร้อนเร่งทำให้ความชื้นในเนื้อไม้แห้งตามมาตรฐานความชื้นที่กำหนดไว้ โดยวิธีการจะนำไม้ไปอบด้วยความร้อนที่กำหนดประมาณ 100 องศาเซลเซียส ด้วยระบบสุญญากาศ คือ การดูดอากาศจนกระทั่งอากศภายในตูที่ใช้อบไม้ รวมถึงอากาศจากในเนื้อไม้ออกจนหมดสิ่งมีชีวิตต่างๆไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ เป็นการทำลายมดหรือแมลงต่างๆที่อาจจะมากับไม้ไปจนหมด

ไม่ง่ายเลยใช่ไหมครับสำหรับการทำเราจะนำไม้มาใช้ประโยชน์ ยังมีวิธีการปรับปรุงคุณภาพไม้ยังอีก 2ขั้นตอนในการปรับปรุงคุณภาพไม้
การอบความร้อนแบบพิเศษ (Heated Treatment)
การอัดน้ำยา
จึงจะได้ไม้ที่นำมาใช้ประโยชน์ได้เต็มประสิทธิภาพ




0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น