วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พื้นไม้ลามิเนต เป็นไม้สังเคราะห์ที่นำมาใช้ทดแทนไม้ในการก่อสร้าง จากเดิมที่ในอดีตไม้ถูกนำใช้เป็นวัสดุในการทำพื้นบ้าน แต่เนื่องจากไม้มีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ ที่มีขั้นตอนค่อนข้างยุ่งยากมาก กว่าจะในนำมาใช้งานได้ ลดต้นทุนในการก่อสร้าง รวมไปถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมจึงมีการคิดค้นวัสดุพื้นไม้ขึ้นมา

 พื้นไม้ลามิเนต ถูกคิดค้นขึ้นโดยบริษัท Perstorp ในประเทศสวีเดนในปี 1977 และจัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ PERGO  ต่อมาพื้นไม้ลามิเนตได้รับความนิยมทั่วโลก และมีการพัฒนาคุณภาพพื้นไม้ลามิเนตให้มีความแข็งแรง ทนทาน มีสีลวดลายที่สวยงามมากยิ่งขึ้น และเพื่อตอบสนองความต้องของผู้ใช้งาน ปัจจุบันพื้นไม้ลามิเนตสามารถติดตั้งได้ง่ายและพร้อมใช้งานได้ทันที

 

ข้อดีของพื้นไม้ลามิเนต
  • ใช้เวลาในการติดตั้งน้อย
  • สามารถเข้าใช้งานได้ทันที หลังจากที่ติดตั้ง
  • ผิวหน้าพื้นไม้ลามิเนต ทนทานต่อรอยขีดข่วน และแรงกระแทกได้ดี
  • มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับไม้
  • มีสีและลวดลายให้เลือกมากมายหลายแบบ

ไม้พื้นลามิเนต 1 (Laminate Floor)

พื้นไม้ลามิเนต เป็นไม้สังเคราะห์ที่นำมาใช้ทดแทนไม้ในการก่อสร้าง จากเดิมที่ในอดีตไม้ถูกนำใช้เป็นวัสดุในการทำพื้นบ้าน แต่เนื่องจากไม้มีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ ที่มีขั้นตอนค่อนข้างยุ่งยากมาก กว่าจะในนำมาใช้งานได้ ลดต้นทุนในการก่อสร้าง รวมไปถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมจึงมีการคิดค้นวัสดุพื้นไม้ขึ้นมา

 พื้นไม้ลามิเนต ถูกคิดค้นขึ้นโดยบริษัท Perstorp ในประเทศสวีเดนในปี 1977 และจัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ PERGO  ต่อมาพื้นไม้ลามิเนตได้รับความนิยมทั่วโลก และมีการพัฒนาคุณภาพพื้นไม้ลามิเนตให้มีความแข็งแรง ทนทาน มีสีลวดลายที่สวยงามมากยิ่งขึ้น และเพื่อตอบสนองความต้องของผู้ใช้งาน ปัจจุบันพื้นไม้ลามิเนตสามารถติดตั้งได้ง่ายและพร้อมใช้งานได้ทันที

 

ข้อดีของพื้นไม้ลามิเนต
  • ใช้เวลาในการติดตั้งน้อย
  • สามารถเข้าใช้งานได้ทันที หลังจากที่ติดตั้ง
  • ผิวหน้าพื้นไม้ลามิเนต ทนทานต่อรอยขีดข่วน และแรงกระแทกได้ดี
  • มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับไม้
  • มีสีและลวดลายให้เลือกมากมายหลายแบบ

วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2557

ไม้เมเปิ้ล หรือ อเมริกัน เมเปิ้ล (American Maple)



พบมาทางภคาตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา แก่นไม้สีเทาเนื้อไม้มีสีออกขาว บางครั้งเป็นรอยเงาบางๆสีน้ำตาลอมแดงอ่อน กะพี้สีขาวครีมไปจนถึงขาวไม่มีสีเสี้ยนมีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์สีอ่อน สม่ำเสมอ มีลักษณเป็นขดคลายตานก ไม้เมเปิ้ลเป็นไม้เนื้อแข็งเหมือนไม้โอ๊ค มีความคงทนต่อแรงกดทับได้ดี เนื้อไม้แน่น เหนียวทำให้รับแรงกระแทกและความสั่นสะเทือนได้ดี ทนต่อการขัดสีเหมาะที่จะนำมาทำเป็นวัสดุปูพื้นในบริเวณที่ใช้งานหนัก เช่น โรงยิม, ลาดโบว์ลิ่ง, หรือในที่พักอาศัย














คุณสมบัติของไม้
ความแข็งของผิวหน้า                                            1,450 lbF.
ความต้านทานต่อการแตกร้าวเมื่อตอกตะปู            พอใช้
ความต้านทานต่อการแตกร้าวเมื่อไขตะปูควง        พอใช้
การติดกาว                                                              ดี

ความกว้างมาตรฐาน  : 4"(90 mm) หรือ 5"(125 mm)
ความยาวมาตรฐาน    : 300 - 1,200 mm.

อเมริกัน เมเปิ้ล (American Maple) ไม้ต่างประเทศ

ไม้เมเปิ้ล หรือ อเมริกัน เมเปิ้ล (American Maple)



พบมาทางภคาตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา แก่นไม้สีเทาเนื้อไม้มีสีออกขาว บางครั้งเป็นรอยเงาบางๆสีน้ำตาลอมแดงอ่อน กะพี้สีขาวครีมไปจนถึงขาวไม่มีสีเสี้ยนมีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์สีอ่อน สม่ำเสมอ มีลักษณเป็นขดคลายตานก ไม้เมเปิ้ลเป็นไม้เนื้อแข็งเหมือนไม้โอ๊ค มีความคงทนต่อแรงกดทับได้ดี เนื้อไม้แน่น เหนียวทำให้รับแรงกระแทกและความสั่นสะเทือนได้ดี ทนต่อการขัดสีเหมาะที่จะนำมาทำเป็นวัสดุปูพื้นในบริเวณที่ใช้งานหนัก เช่น โรงยิม, ลาดโบว์ลิ่ง, หรือในที่พักอาศัย














คุณสมบัติของไม้
ความแข็งของผิวหน้า                                            1,450 lbF.
ความต้านทานต่อการแตกร้าวเมื่อตอกตะปู            พอใช้
ความต้านทานต่อการแตกร้าวเมื่อไขตะปูควง        พอใช้
การติดกาว                                                              ดี

ความกว้างมาตรฐาน  : 4"(90 mm) หรือ 5"(125 mm)
ความยาวมาตรฐาน    : 300 - 1,200 mm.

วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2557

ไม้สักทอง (Golden Teak)


               เป็นไม้ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ปัจจุบันเป็นไม้หวงห้ามโดยส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศพม่า เนื้อไม้สีน้ำตาลเหลืองทองเนียนละเอียด เสี้ยนตรงเป็นระเบียบ สอดแทรกด้วยสีน้ำตาลเข้มสวยงามเด่นชัด แข็งแรง ทนทาน
               เนื้อไม้สักทองจะมีน้ำมัน ซึ่งเป็นสารที่เป็นพิษต่อปลวก และเห็ดราบางชนิด ทนต่อกรด ไม่ทำให้เหล็กเป็นสนิม แต่ต้องเป็นไม้สักทองที่มาจากป่าธรรมชาติ เนื้อไม้ค่อนข้างอ่อนทำให้ขึ้นรูปและทำงานค่อนข้างง่าย ทนทานต่อการเข้าทำลายเนื้อไม้จากปลวกมอด เป็นไม้ที่ใช้ได้สารพัดประโยชน์ สำมารถนำใช้ได้ทุกส่วนในการสร้างบ้านตั้งแต่เสา พื้น ไปจนถึงหลังคา นอกจากนั้น ยังทนทาน ทนแดด ทนฝน ปลวกไม้ชอบ สีสวย ใช้ทำเครื่องเรือนได้ดีที่สุด อายุการใช้งานยาวนาน



 คุณสมบัติของไม้
ความแข็งแรงของผิวหน้า (Janka hardness test)                1.155 lbF.
ความต้านทานต่อการแตกร้าวเมื่อตอกตะปู                           ดี
ความต้านทานต่อการแตกร้าวเมื่อไขตะปูควง                       ดี
การติดกาว                                                                             ดี
ความกว้างมาตรฐาน : 4" (90mm) หรือ 5"(125mm)
ความยาวมาตรฐาน   : 300-1,200 mm.





ไม้สักทอง (Golden Teak) ไม้ในประเทศ

ไม้สักทอง (Golden Teak)


               เป็นไม้ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ปัจจุบันเป็นไม้หวงห้ามโดยส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศพม่า เนื้อไม้สีน้ำตาลเหลืองทองเนียนละเอียด เสี้ยนตรงเป็นระเบียบ สอดแทรกด้วยสีน้ำตาลเข้มสวยงามเด่นชัด แข็งแรง ทนทาน
               เนื้อไม้สักทองจะมีน้ำมัน ซึ่งเป็นสารที่เป็นพิษต่อปลวก และเห็ดราบางชนิด ทนต่อกรด ไม่ทำให้เหล็กเป็นสนิม แต่ต้องเป็นไม้สักทองที่มาจากป่าธรรมชาติ เนื้อไม้ค่อนข้างอ่อนทำให้ขึ้นรูปและทำงานค่อนข้างง่าย ทนทานต่อการเข้าทำลายเนื้อไม้จากปลวกมอด เป็นไม้ที่ใช้ได้สารพัดประโยชน์ สำมารถนำใช้ได้ทุกส่วนในการสร้างบ้านตั้งแต่เสา พื้น ไปจนถึงหลังคา นอกจากนั้น ยังทนทาน ทนแดด ทนฝน ปลวกไม้ชอบ สีสวย ใช้ทำเครื่องเรือนได้ดีที่สุด อายุการใช้งานยาวนาน



 คุณสมบัติของไม้
ความแข็งแรงของผิวหน้า (Janka hardness test)                1.155 lbF.
ความต้านทานต่อการแตกร้าวเมื่อตอกตะปู                           ดี
ความต้านทานต่อการแตกร้าวเมื่อไขตะปูควง                       ดี
การติดกาว                                                                             ดี
ความกว้างมาตรฐาน : 4" (90mm) หรือ 5"(125mm)
ความยาวมาตรฐาน   : 300-1,200 mm.





วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2557

การอบแห้ง (Kiln Dry)

 ไม้ทุกชนิดที่มีการนำมาใช้งานไม่ว่าจะด้วยรูปแบบไหนก็ตาม ควรผ่านกระบวนการอบแห้งซะก่อน เพื่อลดความชื้นที่มีอยู่ในเนื้อไม้ ที่ทำให้เกิดการหด หรือขยายตัวของเนื้อไม้ทำให้เกิดการโก่ง บิดตัว สร้างความเสียหายให้กับโครงสร้างไม้

โดยที่การอบแห้งนั้นมีอยู่ 2 แบบ
  1. แบบแอร์ดราย (Air Dry) 
  2. แบบอบความร้อนด้วยระบบสูญญากาศ

แบบ แอร์ดราย (Air Dry)
เรียกแบบภาษาชาวบ้านคือแบบผึ่งลม นั่นเอง เป็นการทำไม้ แห้งด้วยการตากลมโดยที่ตากแดด ปล่อยให้ความชื้นในเนื้อไม้ค่อยๆ ระเหยไปเอง  จนความชื้นในเนื้อไม้เหลือ 15-16% ซึ่งบ้านเรากำหนดความชื้นในไม้ไว้ที่ประมาณ 10-12% ถ้าใครคิดจะลองวิธีการนี้ ต้องใช้เวลาเป็นปีเลยทีเดียวเพื่อให้ไม้แห้ง แต่วิธีการนี้จะช่วยทำให้ไม้ไม่เกิดการบิดตัวเลยเพราะเป็นการค่อยๆปล่อยให้ไม้นั้นแหงเองตามธรรมชาติ ถ้าเกิดรอนานไม่ไหวก็สามารถใช้วิธีการอบได้ซึ่งจะใช้เวลา 1-2 วัน เท่านั้น แต่มีข้อเสียคือ การอบนั้นเหมือนเป็นการไปเร่งเอาน้ำออกมาจากเนื้อไม้ ทำให้ไม้เกิดการบิดตัว และอาจเสียรูปได้


แบบอบความร้อนด้วยระบบสูญญากาศ
การอบความร้อนวิธีการนี้เป็นวิธีอีกทางหนึ่ง เพื่อดึงความชื้นออกมาจากเนื้้อไม้ เพื่อให้ไม้ที่นำไปใช้ไม่เกิดการโก่งงอ บิดตัว เป็นการใช้ความร้อนเร่งทำให้ความชื้นในเนื้อไม้แห้งตามมาตรฐานความชื้นที่กำหนดไว้ โดยวิธีการจะนำไม้ไปอบด้วยความร้อนที่กำหนดประมาณ 100 องศาเซลเซียส ด้วยระบบสุญญากาศ คือ การดูดอากาศจนกระทั่งอากศภายในตูที่ใช้อบไม้ รวมถึงอากาศจากในเนื้อไม้ออกจนหมดสิ่งมีชีวิตต่างๆไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ เป็นการทำลายมดหรือแมลงต่างๆที่อาจจะมากับไม้ไปจนหมด

ไม่ง่ายเลยใช่ไหมครับสำหรับการทำเราจะนำไม้มาใช้ประโยชน์ ยังมีวิธีการปรับปรุงคุณภาพไม้ยังอีก 2ขั้นตอนในการปรับปรุงคุณภาพไม้
การอบความร้อนแบบพิเศษ (Heated Treatment)
การอัดน้ำยา
จึงจะได้ไม้ที่นำมาใช้ประโยชน์ได้เต็มประสิทธิภาพ




การอบไม้ (Wood Drying)

การอบแห้ง (Kiln Dry)

 ไม้ทุกชนิดที่มีการนำมาใช้งานไม่ว่าจะด้วยรูปแบบไหนก็ตาม ควรผ่านกระบวนการอบแห้งซะก่อน เพื่อลดความชื้นที่มีอยู่ในเนื้อไม้ ที่ทำให้เกิดการหด หรือขยายตัวของเนื้อไม้ทำให้เกิดการโก่ง บิดตัว สร้างความเสียหายให้กับโครงสร้างไม้

โดยที่การอบแห้งนั้นมีอยู่ 2 แบบ
  1. แบบแอร์ดราย (Air Dry) 
  2. แบบอบความร้อนด้วยระบบสูญญากาศ

แบบ แอร์ดราย (Air Dry)
เรียกแบบภาษาชาวบ้านคือแบบผึ่งลม นั่นเอง เป็นการทำไม้ แห้งด้วยการตากลมโดยที่ตากแดด ปล่อยให้ความชื้นในเนื้อไม้ค่อยๆ ระเหยไปเอง  จนความชื้นในเนื้อไม้เหลือ 15-16% ซึ่งบ้านเรากำหนดความชื้นในไม้ไว้ที่ประมาณ 10-12% ถ้าใครคิดจะลองวิธีการนี้ ต้องใช้เวลาเป็นปีเลยทีเดียวเพื่อให้ไม้แห้ง แต่วิธีการนี้จะช่วยทำให้ไม้ไม่เกิดการบิดตัวเลยเพราะเป็นการค่อยๆปล่อยให้ไม้นั้นแหงเองตามธรรมชาติ ถ้าเกิดรอนานไม่ไหวก็สามารถใช้วิธีการอบได้ซึ่งจะใช้เวลา 1-2 วัน เท่านั้น แต่มีข้อเสียคือ การอบนั้นเหมือนเป็นการไปเร่งเอาน้ำออกมาจากเนื้อไม้ ทำให้ไม้เกิดการบิดตัว และอาจเสียรูปได้


แบบอบความร้อนด้วยระบบสูญญากาศ
การอบความร้อนวิธีการนี้เป็นวิธีอีกทางหนึ่ง เพื่อดึงความชื้นออกมาจากเนื้้อไม้ เพื่อให้ไม้ที่นำไปใช้ไม่เกิดการโก่งงอ บิดตัว เป็นการใช้ความร้อนเร่งทำให้ความชื้นในเนื้อไม้แห้งตามมาตรฐานความชื้นที่กำหนดไว้ โดยวิธีการจะนำไม้ไปอบด้วยความร้อนที่กำหนดประมาณ 100 องศาเซลเซียส ด้วยระบบสุญญากาศ คือ การดูดอากาศจนกระทั่งอากศภายในตูที่ใช้อบไม้ รวมถึงอากาศจากในเนื้อไม้ออกจนหมดสิ่งมีชีวิตต่างๆไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ เป็นการทำลายมดหรือแมลงต่างๆที่อาจจะมากับไม้ไปจนหมด

ไม่ง่ายเลยใช่ไหมครับสำหรับการทำเราจะนำไม้มาใช้ประโยชน์ ยังมีวิธีการปรับปรุงคุณภาพไม้ยังอีก 2ขั้นตอนในการปรับปรุงคุณภาพไม้
การอบความร้อนแบบพิเศษ (Heated Treatment)
การอัดน้ำยา
จึงจะได้ไม้ที่นำมาใช้ประโยชน์ได้เต็มประสิทธิภาพ




วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557



 ไม้บีช(Beech) เป็นไม้มาจากทวีปยุโรป สีน้ำตาลออกขาวอมเหลือง หรืออมส้ม เป็นผลมาจาการนำไปผ่านกระบวนการ Steam ไม้ เพื่อลดการโก่งตัวหรือบิดตัวของไม้ ทำให้ไม้มีสีออกส้มมากขึ้น ปกติจะทำการ Steam ประมาณ 24 ชั่วโมง แต่ถ้าไม่ต้องการสีออกส้มมากก็จะใช้เวลาเพียงครึ่งหนึ่งคือ 12 ชั่วโมงเท่านั้น ด้วยเนื้อไม้ของไม้บีชมีความละเอียดมาก ลายไม่เยอะ จึงนิยมนำมาทำพื้น และเฟอร์นิเจอร์ ไม้บีชมีสีที่ค่อนข้างจะออกเป็นสีของเนื้อไม้ น้ำตาลอมส้มกลางๆให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติของไม้ได้มากแต่ในประเทศไทยนิยมใช้ไม้โอ๊คมากกว่า



ไม้บีช (Beech) ไม้ต่างประเทศ



 ไม้บีช(Beech) เป็นไม้มาจากทวีปยุโรป สีน้ำตาลออกขาวอมเหลือง หรืออมส้ม เป็นผลมาจาการนำไปผ่านกระบวนการ Steam ไม้ เพื่อลดการโก่งตัวหรือบิดตัวของไม้ ทำให้ไม้มีสีออกส้มมากขึ้น ปกติจะทำการ Steam ประมาณ 24 ชั่วโมง แต่ถ้าไม่ต้องการสีออกส้มมากก็จะใช้เวลาเพียงครึ่งหนึ่งคือ 12 ชั่วโมงเท่านั้น ด้วยเนื้อไม้ของไม้บีชมีความละเอียดมาก ลายไม่เยอะ จึงนิยมนำมาทำพื้น และเฟอร์นิเจอร์ ไม้บีชมีสีที่ค่อนข้างจะออกเป็นสีของเนื้อไม้ น้ำตาลอมส้มกลางๆให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติของไม้ได้มากแต่ในประเทศไทยนิยมใช้ไม้โอ๊คมากกว่า



วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557

โอ๊ค (Oak)

ไม้ต่างประเทศส่วนใหญ่นั้นจะเป็นไม้เนื้ออ่อนซึ่งนิยมนำมาใช้เป็นไม้สำหรับงานตกแต่งเพื่อความสวยงาม ถ้าเป็นไม้สำหรับงานโครงสร้าง นิยมใช้ไม้สน เนื่องจากเป็นไม้โตไว และมีมาก ปัจจุบันนี้ได้มีกรรมวิธีพัฒนาคุณสมบัติของไม้เพื่อให้มีความแข็งแรงทนทานมากขึ้นเพื่อนำมาใช้งานได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

01 ไม้โอ๊ค (Oak) ไม้ตระกูลโอ๊คนั้นจัดเป็นไม้เนื้อแข็ง และเป็นไม้อุตสาหกรรม ด้วยปริมาณที่มีอยู่มากมายทำให้มีระดับราคาที่ค่อนข้างคงที่ ต่างจากไม้ในประเทศบ้านเรา ที่ระดับราคาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับปริมาณและความหายากของไม้แต่ละชนิด

ไม้โอ๊คเป็นไม้ที่มาจากทางฝั่งยุโรป อเมริกา จีน รัสเซีย ญี่ปุ่น แต่ไม้โอ๊คที่มีคุณภาพจะมาจากจีนและญี่ปุ่นเนื่องจากสภาพภูมิอากาศทำใ้ห้เติบโตช้า เนื้อไม้จึงมีความละเอียดมากกว่าทางฝั่งอเมริกา อย่างไรก็ตามไม้โอ๊คส่วนใหญ่ ในอเมริกาเป็นป่าปลูกที่ตัดจากป่าธรรมชาติซึ่งมีระบบการปลูกทดแทนอย่างเป็นระบบก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากมีปริมาณมากและราคาสมเหตุสมผล โดยสามารถแบ่งประเภทของไม้โอ๊คเป็น 2 ชนิดด้วยกันคือ

ไม้โอ๊คแดง (Red Oak) ไม้โอ๊คแดงปลูกมาทางฝั่งตะวันออกของอเมริกาเนื้อไม้ออกสีน้ำตาลเข้มอมแดง มีเสี้ยนที่ลึกเห็นเด่นชัดสัมผัสไม้หยาบให้ความรู้สึกแน่น รก และหนัก ตามสไตล์บ้านฝรั่งที่เน้นการตกแต่งบ้านด้วยไม้ขนาดใหญ่โทนสีเข้ม ให้ความรู้สึกหนักและทึบตัน นิยมนำมาใช้ทำพื้น และเฟอร์นิเจอร์ไม้ ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่นิยมในบ้านเรา เนื่องจากสไตล์การตกแต่งบ้านแบบไทย จะเน้นที่รูปแบบเรียบง่ายโปร่งเบาสบาย ซี่งเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับรูปแบบและความรู้สึกที่ได้จากไม้โอ๊คอดงอย่างเห็นได้ชัด
ไม้โอ๊คขาว (White Oak) ไม้โอ๊คขาวพบเห็นมากทางฝั่งตะวันออกของอเมริกาเช่นเีดียวกัน เนื้อไม้ออกสีเหลืองอ่อน มีเสี้ยนที่ถี่ละเอียด ผิวไม้เรียบกว่าไม้โอ๊คแดง ด้วยการที่ไม้โอ๊คขาวนั้นมีสีที่เหลืองอ่อน และผิวเรียบ จึงทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักออกแบบในบ้านเราที่จะเลือกไม้ชนิดนี้มาใช้ในงานกันมาก และนวทางการแต่งบ้านสมัยนี้ก็นิยมชมชอบสไตล์โมเดิร์น ที่ให้ความสัมผัสเรียบง่าย และเบ่าสบายได้ดี


ไม้โอ๊ค (OAK) ไม้ต่างประเทศ

โอ๊ค (Oak)

ไม้ต่างประเทศส่วนใหญ่นั้นจะเป็นไม้เนื้ออ่อนซึ่งนิยมนำมาใช้เป็นไม้สำหรับงานตกแต่งเพื่อความสวยงาม ถ้าเป็นไม้สำหรับงานโครงสร้าง นิยมใช้ไม้สน เนื่องจากเป็นไม้โตไว และมีมาก ปัจจุบันนี้ได้มีกรรมวิธีพัฒนาคุณสมบัติของไม้เพื่อให้มีความแข็งแรงทนทานมากขึ้นเพื่อนำมาใช้งานได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

01 ไม้โอ๊ค (Oak) ไม้ตระกูลโอ๊คนั้นจัดเป็นไม้เนื้อแข็ง และเป็นไม้อุตสาหกรรม ด้วยปริมาณที่มีอยู่มากมายทำให้มีระดับราคาที่ค่อนข้างคงที่ ต่างจากไม้ในประเทศบ้านเรา ที่ระดับราคาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับปริมาณและความหายากของไม้แต่ละชนิด

ไม้โอ๊คเป็นไม้ที่มาจากทางฝั่งยุโรป อเมริกา จีน รัสเซีย ญี่ปุ่น แต่ไม้โอ๊คที่มีคุณภาพจะมาจากจีนและญี่ปุ่นเนื่องจากสภาพภูมิอากาศทำใ้ห้เติบโตช้า เนื้อไม้จึงมีความละเอียดมากกว่าทางฝั่งอเมริกา อย่างไรก็ตามไม้โอ๊คส่วนใหญ่ ในอเมริกาเป็นป่าปลูกที่ตัดจากป่าธรรมชาติซึ่งมีระบบการปลูกทดแทนอย่างเป็นระบบก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากมีปริมาณมากและราคาสมเหตุสมผล โดยสามารถแบ่งประเภทของไม้โอ๊คเป็น 2 ชนิดด้วยกันคือ

ไม้โอ๊คแดง (Red Oak) ไม้โอ๊คแดงปลูกมาทางฝั่งตะวันออกของอเมริกาเนื้อไม้ออกสีน้ำตาลเข้มอมแดง มีเสี้ยนที่ลึกเห็นเด่นชัดสัมผัสไม้หยาบให้ความรู้สึกแน่น รก และหนัก ตามสไตล์บ้านฝรั่งที่เน้นการตกแต่งบ้านด้วยไม้ขนาดใหญ่โทนสีเข้ม ให้ความรู้สึกหนักและทึบตัน นิยมนำมาใช้ทำพื้น และเฟอร์นิเจอร์ไม้ ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่นิยมในบ้านเรา เนื่องจากสไตล์การตกแต่งบ้านแบบไทย จะเน้นที่รูปแบบเรียบง่ายโปร่งเบาสบาย ซี่งเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับรูปแบบและความรู้สึกที่ได้จากไม้โอ๊คอดงอย่างเห็นได้ชัด
ไม้โอ๊คขาว (White Oak) ไม้โอ๊คขาวพบเห็นมากทางฝั่งตะวันออกของอเมริกาเช่นเีดียวกัน เนื้อไม้ออกสีเหลืองอ่อน มีเสี้ยนที่ถี่ละเอียด ผิวไม้เรียบกว่าไม้โอ๊คแดง ด้วยการที่ไม้โอ๊คขาวนั้นมีสีที่เหลืองอ่อน และผิวเรียบ จึงทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักออกแบบในบ้านเราที่จะเลือกไม้ชนิดนี้มาใช้ในงานกันมาก และนวทางการแต่งบ้านสมัยนี้ก็นิยมชมชอบสไตล์โมเดิร์น ที่ให้ความสัมผัสเรียบง่าย และเบ่าสบายได้ดี


วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ไม้เนื้ออ่อน

เป็นไม้ที่มีระยะเวลาการเจริญเติบโตเร็วทำให้มีวงปีกว้างลายไม้ที่ได้จึงน้อยและไม่ละเอียด เนื้อไม้เลยมีความแข็งแรงทนทานน้อยกว่าไม้เนื้อแข็ง ไม้ชนิดนี้จะมีสีของไม้แตกต่างกันออกไปมาก ตั้งแต่ไม้ที่มีสีจาง อ่อนไปจนถึงสีเข้ม เนื้อไม้ไม่แข็งมากจึงไม่นิยมมาใช้มาเป็นส่วนโครงสร้างที่ต้องการรับน้ำหนัก และเนื่องจากเนื้อไม้อ่อนทำให้นิยมนำมาใช้สำหรับงานตกแต่งภายในหรือเฟอร์นิเจอร์หรือโครงสร้างที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมากแต่ก็ไม่เหมาะที่จะใช้กับงานภายนอกที่ต้องตากแดดตากฝน

ตัวอย่างไม้ชนิดนี้ก็มี
ไม้สยาขาว ลักษณะเนื้อไม้มีสีชมพูอ่อนแกมขาวถึงน้ำตาอ่อนแกมแดง มีริ้วสีแก่กว่าสีพื้น ผิวเป็นมันเลื่อม เนื้อหยาบอ่อน ค่อนข้างเหนียว เลื่อยไสได้ง่าย เหมาะสำหรับใช้ทำเครื่องเรือน หรือส่วนประกอบอาคารที่อยู่ในร่ม

ไม้ฉำฉา (ไม้จามจุรี) เนื้อไม้หยาบสีออกขาว น้ำหนักเบาทำการเลื่อยไส ผ่า และขัดเงาได้ง่ายนิยมใช้ทำลังปัจจุบันมีการนำมาใช้ในงานตกแต่ง และทำเครื่องเรือนต่างๆมากขึ้น

และรวมถึง ไม้มะม่วง ทุเรียน ขนุน เรียกได้ว่าเป็นไม้หัวไร่ปลายนา เกิดจากการที่หาได้ง่าย มีมากและราคาถูก แต่เนื่องจากเป็นไม้เนื้ออ่อน จำเป็นต้องนำมาผ่านกรรมวิธีอัดน้ำยากันปลวกและอบแห้ง จึงสามารถนำมาใช้งานได้ดี ส่วนใหญ่จึงนิยมนำไม้มาทำเฟอร์นิเจอร์ เพราะเนื้ออ่อนไสตัดตกแต่งได้ง่าย


ไม้เนื้ออ่อน

ไม้เนื้ออ่อน

เป็นไม้ที่มีระยะเวลาการเจริญเติบโตเร็วทำให้มีวงปีกว้างลายไม้ที่ได้จึงน้อยและไม่ละเอียด เนื้อไม้เลยมีความแข็งแรงทนทานน้อยกว่าไม้เนื้อแข็ง ไม้ชนิดนี้จะมีสีของไม้แตกต่างกันออกไปมาก ตั้งแต่ไม้ที่มีสีจาง อ่อนไปจนถึงสีเข้ม เนื้อไม้ไม่แข็งมากจึงไม่นิยมมาใช้มาเป็นส่วนโครงสร้างที่ต้องการรับน้ำหนัก และเนื่องจากเนื้อไม้อ่อนทำให้นิยมนำมาใช้สำหรับงานตกแต่งภายในหรือเฟอร์นิเจอร์หรือโครงสร้างที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมากแต่ก็ไม่เหมาะที่จะใช้กับงานภายนอกที่ต้องตากแดดตากฝน

ตัวอย่างไม้ชนิดนี้ก็มี
ไม้สยาขาว ลักษณะเนื้อไม้มีสีชมพูอ่อนแกมขาวถึงน้ำตาอ่อนแกมแดง มีริ้วสีแก่กว่าสีพื้น ผิวเป็นมันเลื่อม เนื้อหยาบอ่อน ค่อนข้างเหนียว เลื่อยไสได้ง่าย เหมาะสำหรับใช้ทำเครื่องเรือน หรือส่วนประกอบอาคารที่อยู่ในร่ม

ไม้ฉำฉา (ไม้จามจุรี) เนื้อไม้หยาบสีออกขาว น้ำหนักเบาทำการเลื่อยไส ผ่า และขัดเงาได้ง่ายนิยมใช้ทำลังปัจจุบันมีการนำมาใช้ในงานตกแต่ง และทำเครื่องเรือนต่างๆมากขึ้น

และรวมถึง ไม้มะม่วง ทุเรียน ขนุน เรียกได้ว่าเป็นไม้หัวไร่ปลายนา เกิดจากการที่หาได้ง่าย มีมากและราคาถูก แต่เนื่องจากเป็นไม้เนื้ออ่อน จำเป็นต้องนำมาผ่านกรรมวิธีอัดน้ำยากันปลวกและอบแห้ง จึงสามารถนำมาใช้งานได้ดี ส่วนใหญ่จึงนิยมนำไม้มาทำเฟอร์นิเจอร์ เพราะเนื้ออ่อนไสตัดตกแต่งได้ง่าย